วันศุกร์

รู้จักใจ : ภาวนาเพื่อความเข้าใจในครอบครัว

๕ ถึง ๗ เมษายน ๒๕๕๑ ณ ภูโอบน้ำใส จังหวัดนครนายก :)

ขอขอบคุณ
เรื่อง : น้องธีร์
ภาพ : พี่บอล
editor : หญิง

วันเสาร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๑

ประมาณ 10 โมงกว่า ผู้ร่วมภาวนาทุกคนก็มาถึง ความร้อนของเดือนสงกรานต์เบาบางลงมากจากฝนตกหนักเมื่อคืนนี้ ราวกับว่าคณะภิกษุภิกษุณี หมู่บ้านพลัมได้นำสายฝนแห่งความชุ่มฉ่ำมาด้วย หลังจากการลงทะเบียน เพื่อรับทราบกลุ่มครอบครัวของตนแล้ว

ทุกคนก็มารวมตัวกันที่หอประชุมเพื่อรับฟังการปฐมนิเทศ ที่จะบอกถึงวิธีการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดเวลา 3 วันในงานภาวนา ส่วนเด็กๆ และกลุ่มวัยรุ่น ต่างก็ตามหลวงพี่ประจำครอบครัวธรรมของตน ไปร่วมกิจกรรมสนุกตามวัยของตนเอง ซึ่งจะต่างจากกิจกรรมหลักๆของผู้ใหญ่ในตลอดสามวันนี้ หลังเสร็จสิ้นการปฐมนิเทศ พวกเราร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยความสงบ เบิกบาน และเป็นมิตร จากนั้น เราจึงได้ร่วมกันฝึกสติกับ “การอาบน้ำให้กับพุทธะองค์น้อยๆ” หรือจานอาหารของพวกเรา






เมื่ออิ่มเอมจากอาหารแล้ว กิจกรรมแรกของงานภาวนาก็คือ “ผ่อนพักตระหนักรู้” ซึ่งเป็นการผ่อนคลายร่างกาย และจิตใจอย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มจากการนอนราบกับพื้นเสื่อ ส่งความรักของเราไปยังร่างกาย พร้อมทั้งปลดปล่อยความตึงเครียดทั้งหมดสู่อ้อมกอดของพระแม่ธรณี เมื่อสดชื่นทั้งกาย และใจ เพื่อนๆผู้ร่วมภาวนา ได้ขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์จากข้อฝึกอบรมสติ 5 ประการ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับจากข้อฝึกสติ และมีเวลาเพียงพอที่จะตัดสินใจรับข้อฝึกสติในวันจันทร์นี้







ยามบ่ายคล้อย ใต้โค้งฟ้าสีคราม พวกเราร่วมยืนกันเป็นวงกลมใหญ่ ขับขานบทเพลงหมู่บ้านพลัม ก่อนเริ่ม"เดินวิถีแห่งสติ" สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ และสรรพสัตว์รอบข้าง จนยามเย็น บรรดาเพื่อนพี่น้องทางธรรมต่างแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัวธรรมของตน โดยเด็กๆ ก็จะร่วมรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา กับคุณพ่อคุณแม่ด้วย ช่วงนี้เองเป็นโอกาสให้ทุกคนรู้จักกัน พร้อมสร้างความสนิทสนมกับเพื่อนๆในครอบครัวเดียวกัน โดยมีหลวงพี่คอยเกื้อหนุน

กิจกรรมสุดท้ายของวันคือ"การนั่งสมาธิ และเดินจงกรม"ในหอประชุม หลังจากนั้น ก็แยกย้ายกันกลับไปยังที่พักของตนด้วยความเงียบสงบ พลังแห่งสติดำเนินไปตลอดทั้งคืนด้วยการปิดวาจา เหล่าแมลงและกบน้อยร่วมขับขานบทเพลงแห่งราตรีกล่อมพวกเราสู่นิทรา

วันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๑

ก่อนตะวันแย้มขอบฟ้า พี่น้องทางธรรมร่วมกัน"นั่งสมาธิ"ต้อนรับอรุณรุ่ง ท่ามกลางทิวทัศน์ที่โอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี จนถึงเวลาดูแลกายของเราด้วย กิจกรรมกายบริหารที่ตนชอบ ไม่ว่าจะเป็นโยคะ เคลื่อนไหวอย่างมีสติ หรือชี่กง จากนั้นก็ถึงเวลารับประทานอาหารเช้า









หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลารับประทานอาหารแห่งจิตวิญญาณ ด้วยการรับฟังธรรมบรรยายจากหลวงพ่อส้มโอ พวกเราเรียนรู้วิธีการทำให้ม้าแห่งความคิดของเราสงบลง และการรักอย่างที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ เมื่อใจอิ่ม ท้องก็เริ่มหิวอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องสังฆะร่วมกันรับประทานอาหารอย่างมีสติ สัมผัสถึงจักรวาลในช้อนข้าวแต่ละคำ





กิจกรรมยามบ่ายเริ่มต้นจาก ผ่อนพักตระหนักรู้ พวกเราส่งความรัก และความซาบซึ้งบุญคุณไปให้กับอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย จนสิ้นสุดการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปเข้ากลุ่มครอบครัวธรรมเพื่อสนทนาธรรมร่วมกับบรรดาหลวงพี่ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้การเดินวิถีแห่งสติ ซึ่งเป็นกิจกรรมถัดมา เต็มไปด้วยความสดชื่นจากกลิ่นไอน้ำฝนที่เพิ่งหยุดตกไปเมื่อไม่นานนี้



หลังอาหารเย็น มี"พิธีกุหลาบประดับดวงใจ" หรือ Rose Festival ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษให้พวกเราทุกคนได้ระลึก และซาบซึ้งในพระคุณของบิดา มารดา และบรรพบุรุษ น้องๆวัยรุ่นได้แบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับความรักของพ่อแม่ อีกทั้งช่วยกันแสดงละคร สร้างความเบิกบาน และประทับใจให้กับทุกคน ก่อให้เกิดบรรยากาศความรัก ความอบอุ่น และสายใยรักพ่อ แม่ ลูก ประทับอยู่ในดวงใจของผู้ร่วมภาวนาทุกคน กิจกรรมแห่งความรักปิดฉากลงด้วยบทเพลง น้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ และการโอบกอดแห่งสติ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปพักผ่อนในความสงบเงียบด้วยใจที่อิ่มเอม

วันจันทร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๑






พิธีรับข้อฝึกอบรมสติ ๕ ประการเริ่มต้นตั้งแต่เช้าตรู่ พลังงานร่วมของสังฆะ ได้เกื้อหนุนพิธีอันสวยงามนี้ให้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของผู้รับศีล และผู้ร่วมภาวนาทุกคน มื้อเช้าดำเนินไปด้วยความเบิกบาน สุขสงบ จากนั้นจึงถึงช่วงถาม-ตอบธรรมะ กับหลวงพ่อส้มโอ เป็นการบรรยายธรรมที่เข้าถึงหัวอกหัวใจจนเหล่าวัยรุ่นติดใจ ร่วมนั่งฟังไปจนเกือบจบ





อาหารมื้อสุดท้ายของงานภาวนา พวกเราร่วมรับประทานกันเป็นกลุ่มครอบครัว เป็นโอกาสอีกครั้งให้พวกเราได้สนทนาธรรมกับบรรดาหลวงพี่อย่างใกล้ชิด หลังมื้อกลางวันก็เป็นพิธีรับสัญญา ๒ ข้อของน้องๆตัวเล็ก บรรยากาศเต็มเป็นด้วยความสดใส น่ารัก น่าเอ็นดู จากนั้น ก็เป็นโอกาสของผู้ร่วมภาวนาในการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้สึก ที่ได้รับจากการปฏิบัติร่วมกัน รวมถึงช่วงการแนะนำสังฆะต่างๆ เพื่อให้พวกเราได้สืบเนื่องการปฏิบัติต่อที่กรุงเทพ
บ่ายสองโมงกว่า งานภาวนารู้จักใจ ภาวนาเพื่อความเข้าใจในครอบครัว ก็ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ